อีซา
อัล-มะซีฮ์เป็นใคร
(เรื่องต่อไปนี้
เป็นเรื่องของมุสลิมคนหนึ่งที่ค้นหาความจริงเกี่ยวข้องท่านอีซา
เขาได้เข้าใจท่านอีซาเป็นใครโดยการอ่านทั้งอัล-กุรอานและเตารอตและอินญีลด้อย)
เวลานั้นข้าพเจ้าได้อ่านคัมภีร์เตารอต ใน เฉลยธรรมบัญญติ
บทที่ 18 ข้อ 15
“ พระเยโฮวาฮ์ ( ชาวยิว เรียกชื่อ อัลเลาะห์
ว่าพระเยโฮวาฮ์) พระเจ้าของท่านจะโปรดให้มีนบีเกิดขึ้น
อย่างข้าพเจ้านี้เกิดขึ้นในหมู่พวกท่าน จากพี่น้องของท่าน
ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟังเขา”
ข้อความตอนนี้สอดคล้องกับคัมภีร์อินญีล คือ ในกิจการของอัครทูต บทที่ 3
ข้อ 22 ที่นบีมูซาได้กล่าวไว้ว่า
“ พระเจ้าของท่านทั้งหลายจะโปรดประทาน
นบีท่านหนึ่งเหมือนอย่างเราให้แก่ท่าน จากจำพวกพี่น้องของท่าน
ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟังผู้นั้นในสิ่งสารพัดซึ่งพระองค์จะได้ตรัสแก่ท่าน”
และในบทที่ 7 ข้อ 37 นบีมูซา ได้กล่าวแก่ชนชาติของท่านว่า
“ พระเจ้าจะทรงประทาน
นบีผู้หนึ่งให้เกิดมาเพื่อท่าน
จากพี่น้องของท่านเหมือนอย่างที่ให้ข้าพเจ้าเกิดมา”
ข้อความนี้ดึงดูดใจข้าพเจ้ามาก
เพราะเมื่อก่อนเคยเป็นสิ่งเตือนใจข้าพเจ้า
ในช่วงที่ข้าพเจ้าขัดแย้งกับอุมมะฮ์ท่านอีซา
แต่มาระยะหลังนี้ทัศนคติของข้าพเจ้าก็เริ่มเปลี่ยนไป ว่าที่จริง
เตารอตและ อินญีล
ยังคงถูกปกปิดอยู่และยากที่จะเข้าใจควรพึ่งสติปัญญาที่มาจากอัลเลาะห์
เพื่อที่ความเชื่อจะถูกเติมให้เต็ม
ใน
เตารอต บท เฉลยธรรมบัญญติตอนนี้ได้พิจารณาถึงคำกล่าวที่กล่าวถึงท่าน
นบีมูฮำหมัด ว่า “ นบีที่เหมือนข้าพเจ้า (
นบีมูซา)” ทำให้รู้ว่านบีมูซาเหมือน
นบีมูฮำหมัด
ดังที่อัลเลาะห์ (ซ.บ.)
ได้สัญญาไว้ว่าจะมีนบีท่านหนึ่งเกิดขึ้นทำให้แน่ใจว่านบีมูฮำหมัดเป็นเพียงศาสดาดังที่ท่านนบีมูซากล่าวถึง
- ท่านนบีมูซาเกิดมามีพ่อ แม่, ท่านนบีมูฮำหมัดเกิดมามีพ่อ
แม่ ท่านทั้งสองไม่เหมือน นบีอีซา ที่มีแม่แต่ไม่มีพ่อ
- ท่านนบีมูซาเติบใหญ่แล้วแต่งงาน เช่นเดียวกับท่านนบีมูฮำหมัด
ไม่เหมือนท่านอีซาที่ไม่ได้แต่งงาน
- ท่านนบีมูซาและท่านนบีมูฮำหมัดต่างก็มีลูก
แต่ท่านนบีอีซาไม่มีทายาทและไม่แต่งงาน
- ท่านนบีมูซาและท่านนบีมูฮำหมัด ต่างก็แก่ตาย แต่ท่านอีซาไม่ตาย
ท่านขึ้นสู่สวรรค์ในขณะที่ยังมีชีวิต และไม่ถูกฝัง
นั้นคือสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยเข้าใจความเหมือนกันของท่านนบีมูซาและท่านนบีมูฮำหมัด
ทีนี้เราลองมาดูความเหมือนกันของท่านนบีมูซาและท่านอีซาบาง
ซึ่งไม่ธรรมดาเลย
- ในวัยเยาว์ของท่านนบีมูซา กษัตริย์ ฟาโรห์
มีคำสั่งให้ฆ่าท่านซึ่งเป็นเหตุการณ์ เดียวกับท่านอีซาในวัยเยาว์
ที่กษัตริย์เฮโรดมี่คำสั่งให้ฆ่าท่าน
ไม่เหมือนคนอื่นตรงที่ท่านทั้งสองเกิดมา
และถูกสั่งให้ฆ่าในขณะที่ท่านทั้งสองยังเป็นทารก
- ตอนที่ท่านนบีมูซาเกิด กษัตริย์ฟาโรห์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
และมีคำสั่งให้ฆ่าเด็กที่เป็นชายทุกคนที่มีอายุ 2 ขวบลงมา
ส่วนตอนที่ท่านอีซาเกิด กษัตริย์ เฮโรด มีความโกรธฉุนเฉียวมาก
จึงออกคำสั่งให้ฆ่าเด็กที่เป็นชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 2
ขวบลงมาในบรรดานบีทั้งหมดมีเพียงสองท่านเท่านั้นที่ประสบการณ์แบบเดียวกัน
- ตอนที่ท่านทั้งสองอยู่ในวัยเด็ก
ท่านนบีมูซาได้รับการเลี้ยงดูจากบุตรสาวของกษัตริย์ ฟาโรห์
เช่นเดียวกับท่านอีซาที่ได้รับการเลี้ยงดูจากยูซุฟ
แตกต่างจากคนอื่นตรงที่ได้รับการเลี้ยงจากผู้ที่พระเจ้าได้เลือกไว้
ให้ปกป้องท่านในขณะที่ท่านทั้งสองยังเป็นเด็ก เมื่อมีภัยคุกคาม
- เมื่อท่านนบีมูซาได้รับ วาฮี จากอัลเลาะห์
ท่านได้รับพลังอำนาจจากอัลเลาะห์ ด้วย
ทำให้ท่านบรรลุถึงความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์
ท่านอีซาก็เช่นกันที่ได้รับพลังอำนาจถึงคำพูดที่เป็นชีวิต
ได้รับพลังอำนาจจากอัลเลาะห์
ทำให้ท่านได้ปฎิบัติภารกิจสำเร็จได้อย่างปาฏิหาริย์
ท่านอีซาได้รักษาคนเจ็บป่วยให้หายจากโรคได้
และชุบชีวิตคนที่ตายไปแล้วหลายวันฟื้นชีวิตได้อีกครั้ง
- ท่านนบีมูซาได้ช่วยชนชาติอิสราเอลให้พ้นจากการเป็นทาสในอียิปต์ท่านอีซาได้ช่วยให้ผู้คนหลุดพ้นจากความตายเนื่องจากบาป
สิ่งเหล่านี้เป็นบทพิสูจน์ที่สุดที่ทำให้ข้าพเจ้าได้คิดพิจารณา
และสรุปว่าท่านทั้งสองไม่เหมือนศาสดาท่านอื่นๆ ดังที่มีกล่าวไว้ใน
คัมภีร์เตารอต เฉลยธรรมบัญญติ บทที่ 18 ข้อที่ 15
ดังนั้นข้าพเจ้าเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดที่พิสูจน์ได้ว่าท่านมูฮำหมัดเป็นผู้ถูกกล่าวถึง
แต่สิ่งที่บ่งชี้ได้ชัดก็คือ ท่านอีซาเป็นคำดำรัสของอัลเลาะห์
ที่เป็นร่างกายได้ ถึงแม้ว่าความรักของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่
ที่ให้ข้าพเจ้าพบในคัมภีร์ เตารอต
ที่พระเจ้าตรัสนั้นเป็นความจริงทำให้จิตใจของข้าพเจ้ายิ่งไม่สงบ
หรือว่ามีบางอย่างในความเชื่อของอุมมะห์ท่านอีซา
( ประชาชาติของท่านอีซา)
เพราะมีเหตุผล
เพราะมีเหตุผลบางอย่างในความเชื่อของอุมมะห์ท่านอีซาที่ทำให้ข้าพเจ้ายอมรับไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อที่ว่าท่านอีซาเป็นบุตรของอัลเลาะห์
ตั้งแต่เด็กแล้วที่ข้าพเจ้าถูกสอนมา
และเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าสอนผู้ผู้อื่นด้วย นั้นก็คือ...........
“ อัลลอฮฺไม่ประสูติ และไม่ถูกประสูติ”
“ ไม่มีพระเจ้าอื่นใด
นอกจากอัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น ”
“ ผู้ใดก็ตามที่กล่าวว่าอัลลอฮ์
คือหนึ่งในพระเจ้า 3 องค์ ผู้นั้นคือผู้ที่ตกมุรตัด”
ข้าพเจ้ายอมรับถึงสิ่งนี้ไม่ได้ว่า
อุมมะห์ของท่านอีซาเชื่อว่าท่านอีซาถูกตรึงบนกางเขนนั้นเป็นความจริง
ถ้าท่านอีซา เป็นนบีจริง เป็นผู้ได้รับวาฮี จากพระเจ้า
หรือเป็นบุตรของอัลเลาะห์ จริง แล้วทำไมอัลเลาะห์
ไม่ช่วยท่านอีซาจากการถูกตรึงกางเขน
อย่างไรก็ตาม
จากการที่ชาวยิวได้รับควาเจ็บปวดที่พวกเขาต้องถูกตรึงบนไม้กางเขนจนกว่าจะสิ้นชีวิต
(
ทหารโรมันชอบใช้วิธีตรึงกางเขนชาวยิวในช่วงที่โรมปกครองดินแดนของชาวยิวก่อนท่านอีซากำเนิด)
แล้วทำไม
อัลเลาะห์ไม่ปกป้องพวกเขา แต่กลับพวกเขาตายบนไม้กางเขน
หรือยิ่งกว่านั้น สมมุติว่า เป็นลูกข้าพเจ้าเองที่ได้รับความเจ็บปวด
หรือแย่กว่านั้นคือถูกตรึงบนไม้กางเขน
ในช่วงเวลานั้นข้าพเจ้าต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักเพื่อที่จะไม่ให้ลูกของข้าพเจ้าได้รับความเจ็บปวดทรมานโดยที่ไม่มีความผิด
ข้าพเจ้าต้องการช่วยให้ปลอดภัยผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
อัลเลาะห์ช่วยไม่ได้หรือ
ในช่วงเวลานี้เองข้าพเจ้าได้รับคำชี้แจ้งที่ช่วยให้ข้าพเจ้าเข้าใจในระดับหนึ่ง
ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปเยี่ยมครูสอนศาสนา
หรืออุมมะห์ของท่านอีซาบางคนจึงได้ถามว่าทำไมต้องเรียกท่านอีซาว่า “ บุตรของอัลเลาะห์ ”
หรือ “ผู้นำสู่สรรค์” และ
อะไรที่ใจกันว่า พระเจ้า 3 องค์
แล้วทำไมท่านอีซาจึงถูกตรึงบนไม้กางเขน ซึ่งขัดแย้งกับ
อัล-กรุอ่านมาก และเราได้สนทนากันเกี่ยวกับ “ ความบาปของพ่อที่ตกมาสู่ลูก” ( หมายถึงความบาปของท่านนบีอาดัม-
ฮาวาฮ์) ข้าพเจ้าคิดทบทวนดูแล้วไม่ยุติธรรมที่อัลเลาะห์
ลงโทษแบบนั้น แม้ว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ก็ตาม
ข้าพเจ้าก็ได้รับคำตอบ คำอธิบาย คำชี้แจง
แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เห็นถึงเบื้องหลังที่แตกต่างจากมุสลิม
ไม่สามารถนำมาบรรจบกันได้ที่จะเป็นสะพานเชื่อมขึ้นไปให้รู้ถึงสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถหยั่งรู้ได้
เวลานี้เองที่ข้าพเจ้ารู้ว่า
อัลเลาะห์เท่านั้นที่เป็นความหวังเดียว
และเป็นความหวังสุดท้ายที่จะนำข้าพเจ้าไปสู่ความจริง
ขอพระองค์ทรงช่วยเปิดประตูใจ และชี้นำข้าพเจ้าด้วย
ซึ่งข้าพเจ้าขอดุอาฮฺ ต่อ อัลเลาะห์
ดังนี้
“โอ อัลเลาะห์
ข้าพเจ้าทูลขอให้พระองค์ทรงเปิดเผยให้ได้รู้ความจริงถึงคำว่า
บุตรของอัลเลาะห์ และชื่อของ ผู้นำขึ้นสู่สวรรค์
ในเรื่องของท่านอีซาขอให้พระองค์ ทรงเปิดเผยให้เข้าใจความหมายของคำว่า
วิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า ความลับของไม้กางเขน
ของให้พระองค์มทรงให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจความจริงของ คัมภีร์ เตารอต
– อินญีล
อย่างลึกซึ่งแน่แล้วที่พระองค์ที่พระองค์จะช่วยให้ทุกอย่างสว่างใส ชัดเจน
เพราะว่าคำดำรัสของพระองค์นั้นไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่เริ่มจวบจนปัจจุบัน
ยังเป็นอยู่ตลอดไป และนิรันดรกาลจนกว่าจะถึงวันสิ้นโลก”
โดยแท้จริงแล้ว
หลายครั้งมากที่อัลเลาะห์ได้ทรงช่วยเหลือข้าพเจ้าโดยทางพระวิญญาณของพระองค์
พระวิญญาณของพระองค์
ทำงานในจิตใจของข้าพเจ้าช่วยให้เอาชนะกับอุปสรรคต่างๆได้
|